วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประเพณีจังหวัดสกลนคร

ประเพณีจังหวัดสกลนคร
ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งเป็นงานบุญของชาวอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดสกลนคร ปฏิบัติกันในช่วงออกพรรษา ระหว่างวันขึ้น ๑๒-๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ มูลเหตุของการทำปราสาทผึ้ง สืบเนื่องมาจากครั้งสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จจำพรรษาบนสวรรค์ ครั้นถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ พระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ พระอินทร์จึงนิรมิตบันได ๓ ชนิดขึ้นมา คือ
๑. บันได้แก้วมณี สำหรับพระพุทธเจ้าเสด็จลง
๒. บันไดทองคำ สำหรับเทวดาเสด็จลง
๓. บันไดเงิน สำหรับมหาพรหมเสด็จลง


ซึ่งหัวบันไดนั้นตั้งอยู่บนยอดเขาสีเนรุนาทบนสวรรค์ ส่วนเชิงบันไดตั้งอยู่ ณ เมืองสังกัสสะบนโลกมนุษย์ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จลงนั้นพระองค์ทรงแสดงปาฏิหาริย์เปิดพรหมโลก ซึ่งอยู่เบื้องบน และเปิดโลกมนุษย์ซึ่งอยู่เบื้องล่าง ทำให้ทั้งพรหมโลก สวรรค์ และโลกมนุษย์ สามารถมองเห็นพระองค์ได้หมด ทำให้พวกเทวดา มนุษย์ นาค สัตว์ต่างๆ เกิดความเลื่อมใสและชื่นชมในพระบารมีแห่งพระพุทธองค์ และด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้พวกเทวดา มนุษย์ และสัตว์โลกต่างๆ ได้เห็นปราสาทอันสวยงาม และอยากที่จะไปอยู่บ้าง ทำให้พวกที่ได้เห็นเกิดความรู้แน่ชัดว่า การที่จะได้อยู่ในปราสาทอันสวยงามนั้นต้องกระทำความดี สร้างบุญสร้างกุศล และต้องประพฤติปฏิบัติอยู่ในหลักธรรม และสร้างปราสาทกองบุญไว้ในโลกมนุษย์เสียก่อน ด้วยเหตุนี้จึงมีการสร้างปราสาทและเกิดประเพณีไทยแห่ปราสาทผึ้งขึ้นมา ส่วนเหตุผลที่เรียกว่าปราสาทผึ้งนั้น เกิดขึ้นเนื่องมาจากว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปจำพรรษา ณ ดงไม้สาละใหญ่ ในป่ารักขิตวัน โดยมีลิงและช้างเป็นผู้อุปัฏฐาก ช้างได้นำผลไม้และน้ำมาถวาย ส่วนลิงได้นำรวงผึ้งมาถวาย พอพระพุทธเจ้ารับและฉันรวงผึ้ง ทำให้ลิงดีใจมากขึ้นไปเขย่าบนกิ่งไม้ทำให้กิ่งไม้นั้นหักลงมาเสียบอกลิงตาย ส่วนช้างนั้นอยู่ถวายการรับใช้พระพุทธเจ้ามาตลอด กระทั่งถึงวันมหาปวารณาออกพรรษา พระพุทธเจ้าต้องเสด็จเข้าเมือง ช้างเกิดความรู้สึกเสียใจ จึงอกแตกตาย และสัตว์ทั้งสองได้ไปเกิดอยู่บนปราสาทในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระพุทธเจ้าจึงนำรวงผึ้งนั้นมาประดับที่ปราสาท เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับลิงและช้างนั้น ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งของจังหวัดสกลนคร จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงออกพรรษา โดยแห่ไปรอบๆ เมือง และนำไปถวายที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เพื่อเป็นพุทธบูชา
ประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส การแห่ดาว เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่มีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ทั่วโลก โดยไม่จำกัดอยู่เพียงผู้นับถือศาสนาคริสต์ การแห่ดาวเป็นการเสริมบรรยากาศให้เทศกาลนี้ครึกครื้นขึ้นไป โดยมีตำนานว่าบัณฑิต 3 คน ออกเดินทางตามแสงแห่งดวงดาว และดาวมาดับแสง ณ ที่ประสูติของพระเยซู จึงมีการริเริ่มประเพณีแห่ดาวเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นั้น     การแห่ดาวมีเพียงที่ชุมชนท่าแร่ จังหวัดสกลนคร แห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งดาว คือสัญลักษณ์ของการเสด็จมาประสูติของพระเยซูเจ้า การแห่ดาวจึงเป็นการแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาวคาทอลิก ร่วมทั้งผู้นับถือศาสนาอื่นๆ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดสกลนครอีกด้วย 


ประเพณีพระธาตุเจงเวง เป็นพระธาตุประกอบด้วยปรางค์องค์เดียว สร้างด้วยหินทรายบนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ สลักลวดลายลงบนเนื้อหิน มีทับหลังจำหลักภาพ พระกฤษณะฆ่าสิงห์ ในรูปแบบศิลปะเขมร สมัยบาปวน ลักษณะคล้ายกับปราสาทหินของขอมที่ปรากฏหลายแห่งภาคอีสาน ลวดลายสลักหินบนซุ้มประตู หน้าต่างยังมีลักษณะสมบูรณ์ปรากฏชัด ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝีมือของผู้หญิงสร้างทั้งหมด เพื่อแข่งขันกับผู้ชายที่สร้างพระธาตุภูเพ็ก รูปแบบและศิลปะกำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 งานประเพณีของพระธาตุเจงเวงจะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ-15 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น