วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประเพณีจังหวัดมหาสารคาม

ประเพณีจังหวัดมหาสารคาม
ประเพณีบุญเบิกฟ้า  ช่วงวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต  ชาวนาอีสานตอบแทนผืนแผ่นดินทำกิน  โดยการใช้ปุ๋ยคอกทำจากมูลสัตว์กลับคืนสู่ผืนดินให้มีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง  อีกทั้งสายฝนแรกของปีก็กำลังจะมา  ฟ้ากำลังจะร้อง  เมื่อมาทิศใดก็จะทำนายความอุดมสมบูรณ์ในปีนั้นๆ ไปตามความเชื่อดั้งเดิม ชาวนาใช้ประโยชน์จากพื้นดินมายาวนาน  ตลอดระยะเวลาการเพาะปลูก  ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดินได้สูญสลายไป  เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยว  เมล็ดข้าวที่เติบโตจนได้สีทองล้วนเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้มอบให้  ซึ่งชาวนาต่างรู้และสำนึกในบุญคุณของผืนแผ่นดิน  ด้วยการคืนธาตุ  คืนอาหารเป็นการตอบแทน  อาการที่ว่าก็คือปุ๋ยนั่นเอง เดือน ๓ เดือนมหัศจรรย์ของชาวอีสาน  นอกจากเป็นเดือนที่อุดมสมบูรณ์แล้วยังเป็นเดือนเริ่มต้นฤดูฝน  ซึ่งจะมีเสียงฟ้าร้อง  และมีความเชื่อว่าในวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ นี้  เมื่อมีฟ้าร้องมาจากทิศทางใดจะเป็นสัญญาณบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของฝนในปีนั้นๆ  การทำนายดังกล่าวนับว่ามีความแม่นยำจนมีการจดบันทึกคำทำนายเป็นกลอนไว้เป็นหลักฐาน  ชื่อว่า โสลกฝนประเพณีบุญเบิกฟ้าเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘  ชาวบ้านแบก  ตำบลนาทอง  อำเภอเชียงยืน  ได้ฟื้นฟูประเพณีหาบฝุ่นปุ๋ยคอกไปใส่แปลงนาทุกครัวเรือนเพื่อ



เป็นการฟื้นฟูประเพณีบำรุงดินแบบอีสานจากความร่วมมือของชุมชนปรากฏว่าผลผลิตข้าวในปีนั้นเพิ่มจำนวนขึ้นเท่าตัว  ชาวบ้านจึงจัดงานประเพณีนี้เรื่อยมา  และกลายเป็นงานประเพณีประจำปีของจังหวัดมหาสารคาม  ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลา ๗ วัน ๗ คืน เมื่อถึงกำหนดงานชาวบ้านต่างช่วยกันหาบปุ๋ยคอกไปใส่ลงในแปลงนา  ควบคู่กับพิธีบูชาพระแม่ธรณี  ตั้งเครื่องสังเวย  เหล้าไห  ไก่ต้ม  ของหวาน  กล้วย  อ้อย  ตามรูปแบบพิธีกรรมดั้งเดิม  ซึ่งนับเป็นประเพณีที่สมบูรณ์  และสะท้อนภาพวิถีชีวิตของชาวอีสานอย่างแท้จริง


            "พระธาตุนาดูน" หรือ "พุทธมณฑลอีสาน" เป็นสถานที่ที่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีที่แสดงว่าบริเวณแห่ง นี้เคยเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรื่องของนครจำปาศรี เมืองโบราณในอดีต อีกทั้งได้ขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 สมัยทวาราวดี จึงได้สร้างพระธาตุตามแบบสถูปที่ได้ค้นพบ และทุกปีจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จัดงานในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวันมาฆบูชา ของทุกปี โดยจัดที่บริเวณพุทธมณฑลอีสาน พระธาตุนาดูนรวม 9 วัน 9 คืน มีการร่วมกิจกรรมทางพุทธศาสนา และกิจกรรมในงานประกอบด้วยขบวนแห่ประเพณี 12 เดือน การทำบุญตักบาตร การเวียนเทียนวันมาฆบูชา การปฏิบัติธรรมวิปัสสนา การออกนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ การแสดงแสง สี เสียง ประวัติความเป็นมานครจำปาศรี และการจัดร้านสินค้าชุมชนพระครูโสภณเจติยาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า พระบรมธาตุนาดูน พุทธมณฑลอีสาน จ.มหาสารคาม เป็นพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธได้ให้ความเคารพสักการบูชาอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจังหวัดมหาสารคามยึดถือว่าพระธาตุนาดูนเป็นส่วนหนึ่ง ของวิถีชีวิตที่ผูกพันกันมายาวนาน ในช่วงเดือนมาฆะทุกปีชาวอำเภอนาดูนและจังหวัดมหาสารคาม


จะมีการจัดงานนมัสการ พระธาตุนาดูนขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มาสักการบูชา ทำพิธีบวงสรวงอันศักดิ์สิทธิ์ และร่วมกันปฏิบัติธรรมที่ลานหน้าองค์พระธาตุนาดูน ถือเป็นงานใหญ่ระดับภาคอีสานและระดับประเทศ จึงมีพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมงานบุญยิ่งใหญ่แต่ละปีจำนวนมาก สำหรับปีนี้ได้กำหนดการจัดงานวันนมัสการองค์พระธาตุนาดูนขึ้นในวันเพ็ญเดือน สาม หรือ วันมาฆบูชา ระหว่างวันที่ 12 - 20กุมภาพันธ์ 2554 ณ พุทธมณฑลอีสานพระธาตุนาดูน จังหวัดมหาสารคาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น